วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559

การปฏิบัติสำหรับกรณีฉุกเฉิน

การปฏิบัติสำหรับกรณีฉุกเฉิน 1.ตั้งสติให้ได้อย่าตกใจ 2.ขอความช่วยเหลือ 3.ปฐมพยาบาลเบื้องต้น 4.ช่วยหายใจ ให้อากาศเข้าปอดสะดวก คลายเสื้อผ้าให้หลวม 5.ห้ามเลือด 6.นอนนิ่ง ๆ ห่มผ้า คอยสังเกตอาการ จับชีพจรเป็นระยะ 7.ถ้ามีกระดูกหักอย่าเคลื่อนย้าย 8.ห้ามรัปประทานสิ่งใด (ถ้าไฟลวกรุนแรงให้จิบน้ำคำเล็ก ๆ )

ยาที่ควรมีไว้ในตู้ยาประจำบ้าน

ยาที่ควรมีไว้ในตู้ยาประจำบ้าน -ยาแก้ปวดลดไข้ : ยาเม็ดพาราเซตามอล 500 มก. -ยาแก้แพ้,ลดน้ำมูก : ยาเม็ดคลอเฟนิรามีน 4 มก. ,2 มก. -ยาแก้ปวดท้องท้องอืด ท้องเฟ้อ : ยาธาตุน้ำแดง ,ยาธาตุน้ำขาว , โซดามิ้นท์ , ขมิ้นชันแคปซูล -ยาโรคกระเพาะ : ยาเม็ดอลูมินาเมกนีเซีย , ไตรซิลิเคท -ยาแก้ท้องเสีย : ยาน้ำเคาลินเปคติน ผงน้ำตาลเกลือแร่ -ยาใส่แผล : ทิงเจอร์ใส่แผลสด , ไอโปดีน -ยาล้างตา : โบริคโซลูชั่น -ยาล้างแผล เช็ดแผล : ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ , แอลกอฮอล์เช็ดแผล -ยาทาแก้แพ้แก้คัน : คาลาไมน์ -ยาทานวด : ขี้ผึ้งปวดบวม , ครีมระกำ , GPO บาล์ม -ยาแก้ไอผู้ใหญ่ : ยาแก้ไอน้ำดำ , ยาขับเสมหะ -ยาแก้ไอเด็ก : ยาแก้ไอขับเสมหะ , ยาแก้ไอเด็กเล็ก , -ยาระบาย : ยาระบายเม็กนีเซีย , มะขามแขก , ยาเม็ดมะขามแขก -ยาสูดดม : เหล้าแอมโมเนีย

อุปกรณ์ปฐมพยาบาล

อุปกรณ์ปฐมพยาบาล 1.สำลี 2.ผ้ากอซแผ่นชนิดฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด (แอลกอฮอล์) 3.ผ้าสามเหลี่ยม 4.ผ้ากอซพันแผลขนาดต่าง ๆ 5.กรรไกรขนาดกลาง 6.เข็มกลัดซ่อนปลาย 7.แก้วล้างตา 8.พลาสเตอร์ม้วน ชิ้น 9.ผ้ายืดพันแก้เคล็ดขัดยอก ( Elsatic bandage) 10.ผ้ากอซชุลพาราฟินสำหรับแผลไฟไหม้

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การปฐมพยาบาลเมื่อโดนสุนัขกัด

สุนัขกัด 1. ให้รีบทำแผลทันที โดยล้างแผลด้วยน้ำสะอาด, ฟอกสบู่หลายๆ ครั้ง, แล้วชะแผลด้วย แอลกอฮอล์ หรือ ทิงเจอร์ใส่แผลสด หรือ น้ำยาโพวิโดนไอโอดีน 2. รีบพาไปหาหมอ เพื่อพิจารณาฉีดยาป้องกันบาดทะยัก, ฉีดยาป้องกันโรคกลัวน้ำ และใช้ ยาปฏิชีวนะ การห้ามเลือด ถ้าบาดแผลเล็ก กดปากแผลด้วยผ้าสะอาด แล้วพันให้แน่น 2. ถ้าบาดแผลใหญ่ เลือดออกพุ่ง ทำตามข้อ 1 แล้วเลือดยังไม่หยุด ใช้ผ้า เชือก หรือสายยางรัดเหนือแผล(ระหว่างบาดแผลกับหัวใจ) ให้แน่นพอที่เลือดหยุดไหลเท่านั้น โดยอวัยวะส่วนปลายไม่เขียวคล้ำ หรือถ้าเป็นเลือดพุ่งออกมาจากปลายหลอดเลือดที่ขาดอยู่ ให้ใช้ก้อนผ้าเล็กๆ กดลงตรงนั้นเลือดจะหยุดได้ 3. ยกส่วนที่มีเลือดออกให้สูงไว้

การปฐมพยาบาลเบื่องต้นเมื่อความดันต่ำ หน้ามืด เวียนศีรษะ

ความดันต่ำ หน้ามืด เวียนศีรษะ 1. ถ้ามีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง, ปวดท้องหรืออาเจียนรุนแรง, ถ่ายอุจจาระดำ, ใจหวิวใจสั่น, ชีพจรเต้นเร็ว, เหงื่อแตกท่วมตัว, หรือลุกนั่งมีอาการเป็นลม ต้องไปหาหมอโดยเร็ว. 2. ถ้าไม่มีอาการในข้อ 1 ให้ปฏิบัติดังนี้ 2.1 ให้นอนลงสักครู่ แล้วลุกขึ้นใหม่โดยลุกช้าๆ อย่าลุกพรวดพราด เช่น ค่อยๆ ลุกจากท่านอน เป็นท่านั่ง แล้วนั่งพักสักครู่ ขยับและเกร็งขาหลายๆ ครั้ง, แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน, ยืนนิ่งอยู่ สักครู่ แล้วจึงค่อยเดิน 2.2 ถ้ายังมีอาการให้กินยาหอม หรือกดจุด 3. ถ้าเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ควรไปหาหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุ . ถ้ามีอาการวิงเวียน เห็นบ้านหมุน ดูเรื่อง วิงเวียน เห็นบ้านหมุน การป้องกัน ให้ออกกำลังกายเพิ่มขึ้นทีละน้อย, นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ, และดื่มน้ำมาก ๆ กลับสู่ข้างบน

การปฐมพยาบาลเบื่องต้นเมื่อมีผงเข้าตา

ผงเข้าตา ห้ามขยี้ตา , รีบลืมตาในน้ำสะอาด , และกลอกตาไปมาหรือเทน้ำให้ไหลผ่านตา ที่ถ่างหนังตาไว้ ถ้ายังไม่ออก ให้คนช่วยใช้มุมผ้าเช็ดหน้าที่สะอาดเขี่ยผงออกถ้าไม่ออก ควรรีบไปหาหมอ บาดแผล - แผลตื้นหรือแผลมีดบาด (เลือดออกไม่มาก) 1. บีบให้เลือดชะเอาสิ่งสกปรกออกมาบ้าง 2. ถ้ามีฝุ่นผงหรือสกปรก ต้องล้างออกด้วยน้ำสุกกับสบู่ 3. ใส่ ทิงเจอร์ใส่แผลสด หรือ น้ำยาโพวิโดนไอโอดีน 4. พันรัดให้ขอบแผลติดกัน 5. ควรทำความสะอาดแผลและเปลี่ยนผ้ากอซวันละ 1 ครั้ง จนกว่าแผลจะหาย

การปฐมพยาบาลจากแผลงูพิษกัด

แผลงูพิษกัด 1. ดูรอยแผล ถ้างูไม่มีพิษแผลจะเป็นรอยถลอก ให้ทำแผลแบบ แผลถลอก แล้วถ้าแผลไม่ลุกลามหรือไม่มีอาการอื่น ไม่ต้องไปหาหมอ แผลจะหายเอง ถ้างูมีพิษจะมีรอยเขี้ยว 1 หรือ 2 จุด ให้รักษาตามข้อ 2-7 2. พูดปลอบใจอย่าให้กลัวหรือตกใจ, ให้นอนนิ่งๆ, ถ้าจำเป็นให้เคลื่อนไหวน้อยที่สุด 3. ห้ามให้ดื่มเหล้า ยาดองเหล้า หรือยากล่อมประสาท 4. ห้ามใช้มีดกรีดปากแผล ห้ามบีบเค้นบริเวณแผล เพราะจะทำให้แผลช้ำ สกปรก และทำให้พิษกระจายเร็วขึ้น. 5. ห้ามขันชะเนาะรัดแขนหรือขา เพราะจะเกิดอันตรายมากขึ้น 6. รีบพาไปหาหมอ, ถ้าเป็นไปได้ควรนำซากงูที่กัดไปด้วย 7. ถ้าหยุดหายใจ ให้ เป่าปากช่วยหายใจ